iOS 13 และ watchOS 6 ปล่อยอัปเดตคืนนี้!!! 19.09.19 >> วิธีเตรียมเครื่องและสำรองข้อมูลสำหรับการอัพเดท
top of page
  • รูปภาพนักเขียนiPhone iOS Thailand

iOS 13 และ watchOS 6 ปล่อยอัปเดตคืนนี้!!! 19.09.19 >> วิธีเตรียมเครื่องและสำรองข้อมูลสำหรับการอัพเดท




นอกจากลุคใหม่หมด ฟีเจอร์การใช้งานที่เพิ่มประสิทธิภาพให้อุปกรณ์ของเรามากยิ่งขึ้น การเตรียมเครื่องให้พร้อมก่อนอัพเดทคืนนี้ ต้องเตรียมอะไรบ้าง มาดูกันเลยครับผม ^^


6 สิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนอัปเดตเป็น iOS 13

1. เช็คอุปกรณ์ที่รองรับ iOS 13

iOS 13 จะรองรับกับอุปกรณ์ iPhone และ iPod touch เท่านั้น ส่วน iPad จะต้องอัพเดทเป็น iPadOS ซึ่งมีกำหนดปล่อยในวันที่ 1 ตุลาคม 2019 ส่วน iOS 13 มีกำหนดปล่อยก่อนคือวันที่ 20 กันยายนนี้ อุปกรณ์ที่รองรับ ได้แก่

iPhone

iPhone 11

iPhone 11 Pro

iPhone 11 Pro Max (2019)

iPhone XS

iPhone XS Max

iPhone XR (2018)

iPhone X (2017)

iPhone 8

iPhone 8 Plus (2017)

iPhone 7

iPhone 7 Plus (2016)

iPhone 6s

iPhone 6s Plus (2015)

iPhone SE (2015)

iPod touch

iPod touch รุ่นที่ 7 (2019)


2. สำรองข้อมูลในเครื่อง

เมื่อเช็ครุ่นว่าสามารถอัพเดทได้แล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องทำก็คือการสำรองข้อมูล เพื่อป้องกันข้อมูลหายระหว่างอัพเดทเป็น iOS 13


ถ้าหากเราอัพเดทเป็น iOS 13 แล้วรู้สึกไม่พอใจอยากจะกลับไปใช้ iOS 12.4.1 เราก็สามารถนำไฟล์สำรองจาก iOS12.4. มาดาวน์เกรดได้ แต่ถ้าไม่ได้สำรองไว้การดาวน์เกรดกลับไป iOS 12.4.1 ข้อมูลบางส่วนอาจจะสูญหายได้ ****ข้อมูลสำรองของ iOS 13 ไม่สามารถใช้ได้กับ iOS 12.4.1****


การสำรองข้อมูลมี 2 วิธีด้วยกัน ดังนี้


2.1. สำรองข้อมูลด้วย iCloud

การสำรองข้อมูลด้วย iCloud เป็นวิธีที่ง่ายและทำได้โดยไม่ต้องใช้สาย Lightning แต่ควรเช็คพื้นที่ iCloud ให้เพียงพอต่อข้อมูลสำรองด้วย และในการสำรองข้อมูลต้องอาศัย Wi-Fi ที่มีความเร็วสูง มีวิธีดังนี้

ไปที่การตั้งค่า (Settings) > แตะ Apple ID >แตะ iCloud



แตะ ข้อมูลสำรอง iCloud (iCloud Backup) > แตะ สำรองข้อมูลตอนนี้ (Backup Now)



2.2. สำรองข้อมูลด้วย iTunes

การสำรองข้อมูลด้วย iTunes เป็นการนำข้อมูลจาก iPhone ไปเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ สิ่งที่ต้องมีคือ คอมพิวเตอร์, โปรแกรม iTunes, สาย Lightning (สายชาร์จ iPhone) และควรเช็คพื้นที่คงเหลือของ Harddisk ในคอมพิวเตอร์ว่าเพียงพอต่อการสำรองข้อมูลหรือไม่ (บางกรณีใช้สูงถึง 20GB) สามารถทำได้ดังนี้


เชื่อมต่อ iPhone กับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย Lightning กดเชื่อถืออุปกรณ์ พร้อมยืนยันรหัสปลดล็อคเครื่องบน iPhone จากนั้นไปที่แอพ iTunes บนคอมพิวเตอร์ > เลือกรูปไอคอนโทรศัพท์


ในแถบ Summary ให้คลิกเลือก This Computer จากนั้นให้กดปุ่ม Back up Now แล้วคลิกเลือก Encrypt Backups


จากนั้นรอจนกว่า iTunes สำรองข้อมูลเสร็จ หลังจากสำรองเสร็จแล้ว ข้อมูลจะถูกจัดเก็บไว้ใน iTunes หลังจากที่เราติดตั้ง iOS 13 ใหม่แล้ว ก็เลือก Restore From iTunes Back up ได้เลย


3. สำรองข้อมูล LINE

การอัพเดท iOS แต่ละครั้งมีความเสี่ยงที่ประวัติการแชท LINE จะหายด้วยเช่นกัน การป้องกันที่ดีที่สุดคือการสำรองข้อมูล LINE ด้วย ดีกว่าประวัติแชทหายหลังอัพเดท สามารถสำรองง่ายๆ ได้ดังนี้

ไปที่แอพ LINE > แถบหน้าหลักให้แตะ การตั้งค่า ที่บนมุมซ้ายของหน้าจอ > แตะ แชท (Chat)



แตะ สำรองข้อมูลการแชท (Chat History Backup) > แตะ สำรองข้อมูลตอนนี้ (Backup Now)



4. เช็คพื้นที่ในเครื่อง

การอัพเดท iOS แต่ละครั้งจะต้องมีการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์มาเก็บไว้ในเครื่อง ก่อนที่จะอัพเดท iOS ใหม่ ดังนั้นพื้นที่ในเครื่องก็ควรจะมีเหลือไว้สำหรับเก็บซอฟต์แวร์ชั่วคราวด้วย สิ่งที่ต้องทำคือลบแอพที่มีขนาดใหญ่ออกก่อน หลังอัปเดตเสร็จแล้วค่อยดาวน์โหลดแอพหรือเกมมาใหม่

ไปที่การตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > พื้นที่จัดเก็บข้อมูล iPhone (iPhone Storage) > เช็คดูว่าพื้นที่คงเหลือเยอะหรือไม่ ถ้าเหลือไม่ถึง 5GB ก็ควรลบแอพที่กินพื้นที่ในเครื่องเยอะๆ ออกก่อน


5. จำรหัสปลดล็อคเครื่อง และทดลองเข้าใช้งานด้วยรหัสดูก่อน

การอัพเดทซอฟต์แวร์ใหม่จะมีการรีสตาร์ทเครื่องเสมอ และเปิดเครื่องใหม่ครั้งแรก จำเป็นจะต้องใช้รหัสผ่านปลดล็อคเครื่อง โดยที่ไม่ใช่ Face ID หรือ Touch ID ดังนั้นควรจะจำรหัสผ่านของเราให้ได้แน่นอน

สำหรับใครที่ใช้เครื่องมานานมาก และชินกับการปลดล็อค Face ID หรือ Touch ID จนแทบจะจำรหัสผ่านไม่ได้ แนะนำว่าให้ตรวจเช็ครหัสผ่านจากการเข้าใช้งานด้วยรหัสให้เรียบร้อยก่อนทำการอัพเดท



ทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องทราบและต้องเตรียมก่อนการอัพเดท iPhone และ iPod touch เป็น iOS 13 ที่สำคัญคืออย่าลืมสำรองข้อมูลนะครับ ถ้าเตรียมทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ก็อัปเดต iOS 13 กันได้เลยครับผม ^^



bottom of page