วันที่ 7 ตุลาคม ทาง Apple ได้อัพเดท Final Cut Pro X โดยเพิ่ม Metal Engine แบบใหม่ที่พร้อมประสิทธิภาพการใช้งานที่เพิ่มขึ้นบนระบบ Mac ต่างๆ โดยตัวแอพจะใช้ประโยชน์จากพลังมหาศาลของ Mac Pro ใหม่และความสามารถในการแสดงภาพที่มีความละเอียดสูงและการรับชมแบบช่วงไดนามิกสูงของ Apple Pro Display XDR นอกจากนี้ Apple ยังอัพเดท Motion และ Compressor ให้มี Metal Engine รุ่นใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพสำหรับ Mac Pro และรองรับ Pro Display XDR
พลังประมวลผลที่ขับเคลื่อนด้วย Metal
การอัพเดทของ Final Cut Pro ในวันนี้มาพร้อมกับขุมพลัง Metal ใหม่ซึ่งช่วยปรับปรุงระบบการเล่นวิดีโอและส่งเสริมการทำงานกราฟิกรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเรนเดอร์วิดีโอ การสร้างเอฟเฟ็กต์แบบเรียลไทม์ และการส่งออกไฟล์บนคอมพิวเตอร์ Mac ที่ใช้งานกับ Metal ได้ นักตัดต่อวิดีโอที่ใช้ Final Cut Pro บน MacBook Pro รุ่น 15 นิ้วซึ่งเป็นระบบที่นิยมใช้งานกันมากที่สุดจะได้ใช้งานโปรแกรมที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพให้มีความเร็วสูงขึ้นถึง 20% ส่วนผู้ที่ใช้ iMac Pro จะได้รับประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นสูงสุด 35%
การใช้งาน Sidecar บน Catalina
Final Cut Pro สามารถใช้งานร่วมกับคุณสมบัติ Sidecar โฉมใหม่ของ macOS Catalina ที่ช่วยให้ผู้ใช้ขยายพื้นที่การทำงานบน Mac โดยใช้ iPad เป็นหน้าจอที่ 2 เพื่อแสดงเบราเซอร์หรือตัวแสดง นักตัดต่อวิดีโอสามารถเชื่อมต่อกับ Sidecar ได้ทั้งแบบใช้สายและไร้สายเพื่อการทำงานที่ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ไม่ว่าพวกเขาจะทำงานบนโน้ตบุ๊ค Mac ขณะเดินทางหรือใช้งานชุดตัดต่อบน Mac แบบเดสก์ท็อป
ขุมพลังประสิทธิภาพของ Mac Pro
Final Cut Pro จะใช้ประโยชน์จากพลังมหาศาลของ Mac Pro ที่รองรับ GPU ได้หลายตัวและมีการประมวลผลของ CPU สูงสุดถึง 28 คอร์ ทำให้สามารถเรนเดอร์วิดีโอได้เร็วกว่า Mac Pro แบบ 12 คอร์รุ่นก่อนสูงสุดถึง 2.9 เท่าและแปลงโค้ดได้เร็วกว่าเดิมสูงสุด 3.2 เท่า และ Final Cut Pro ยังใช้การ์ด Afterburner เพื่อมอบประสิทธิภาพในการใช้งาน ProRes และ ProRes RAW ที่ยากจะหาใครเทียบเท่า รูปแบบการใช้งานเฉพาะตัวของ Apple ได้รวมคุณภาพของภาพและความยืดหยุ่นของวิดีโอ RAW กับประสิทธิภาพการทำงานของ ProRes มาไว้ด้วยกัน นักตัดต่อสามารถเปิดสตรีมวิดีโอ ProRes 422 ที่ระดับความละเอียด 4K ได้พร้อมกันสูงสุด 16 สตรีมหรือทำงานที่ระดับความละเอียด 8K ด้วยระบบที่รองรับวิดีโอสตรีม ProRes RAW สูงสุด 3 สตรีมที่ระดับความละเอียด 8K
Extreme Dynamic Range บน Pro Display XDR
จอภาพ Retina 6K ขนาดมหึมา 32 นิ้วที่รองรับขอบเขตสีกว้างแบบ P3 และ Extreme Dynamic Range ของ Pro Display XDR พร้อมมอบประสบการณ์รับชมที่เต็มอิ่มสมจริง ผู้ใช้ Final Cut Pro สามารถรับชม ตัดต่อ ปรับสี และลงวิดีโอที่มีช่วงไดนามิกสูง ซึ่งสามารถให้ความสว่างแบบต่อเนื่อง 1,000 นิต และ 1,600 นิต ที่ระดับความสว่างสูงสุด และอัตราส่วนคอนทราสต์ 1,000,000:1 ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ Pro Display XDR กับ Mac ได้อย่างง่ายดายผ่านสาย Thunderbolt เพียงสายเดียว เหล่ามือโปรที่ใช้ Final Cut Pro บน Mac Pro สามารถเชื่อมต่อ Pro Display XDR พร้อมกันได้สูงสุด 3 จอ โดยเปิด Final Cut Pro สองจอและส่วนอีกจอใช้เป็น reference monitor ไว้ทำงานระดับมืออาชีพ
คุณสมบัติใหม่อื่นๆ ของ Final Cut Pro 10.4.7
ปรับสีวิดีโอที่มีช่วงไดนามิกสูงด้วย Color Mark ที่สีสันสดชัดเจนยิ่งขึ้นและเครื่องมือแบ่งวิดีโอ
ดูวิดีโอช่วงไดนามิกสูงที่ได้รับการปรับโทนให้เข้ากับจอภาพที่มีช่วงไดนามิกมาตรฐานขณะใช้ Final Cut Pro, Motion และ Compressor บน macOS Catalina
เลือกว่าจะใช้ GPU ภายในหรือภายนอกเพื่อประมวลผลกราฟิกให้เร็วขึ้น
แอพที่มากับ Final Cut Pro อย่าง Motion และ Compressor ยังได้รับการปรับปรุงโดย Metal Engine ที่ใช้เรนเดอร์ภาพซึ่งช่วยให้เล่นวิดีโอได้ดีขึ้นและเร่งการประมวลผลของกราฟิกให้เร็วขึ้น ทั้งสองแอพได้รับการออกแบบมาให้ใช้ประโยชน์จาก GPU หลายตัวและ CPU ที่ประมวลผลได้สูงสุด 28 คอร์บน Mac Pro รวมถึง Afterburner อีกทั้งยังรองรับเวิร์กโฟลว์ HDR ระดับมืออาชีพบน Pro Display XDR
ราคาและการวางจำหน่าย
Final Cut Pro 10.4.7 สามารถอัพเดทได้ฟรีวันนี้สำหรับผู้ที่ใช้งานอยู่แล้ว และผู้ใช้ใหม่สามารถซื้อแอพจาก Mac App Store ได้ในราคา 10,500 บาท
ที่มา : Apple Newsroom