สหรัฐอเมริกา และประเทศชั้นนำในยุโรป จีน ญี่ปุ่น มีเป้าหมายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษทางอากาศ จึงมีการใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งของการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ก็คือสถานีชาร์จพลังงาน
ปัจจุบันสถานีชาร์จในสหรัฐส่วนใหญ่จะใช้ขั้วต่อแบบ CHAdeMO สำหรับ Nissan / Mitsubishi และขั้วต่อแบบ CCS สำหรับ BMW / VW / Jaguar / Kia ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla จะมีอะแดปเตอร์เฉพาะของตัวเอง ซึ่งสถานีชาร์จสาธารณะจะยังไม่ค่อยรองรับ แม้ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla กำลังมีปริมาณมากพอที่จะถูกกำหนดเป็นมาตรฐานก็ตาม
ขณะนี้ Tesla ได้สร้างสถานีชาร์จของตัวเองที่เรียกว่า Supercharger เป็นสถานีชาร์จแบบเร็วด้วยระบบไฟ 480 VDC มีกำลังไฟสูงสุด 250 กิโลวัตต์ ซึ่งชาร์จด้วยเวลา 15 นาทีสามารถวิ่งได้ถึง 290 กิโลเมตร หรือชาร์จ 5 นาทีวิ่งได้ 120 กิโลเมตร ล่าสุดมีทั้งหมด 1,745 สถานีที่เปิดให้บริการทั่วโลกและ 742 สถานีที่เปิดให้บริการในสหรัฐอเมริกา ดังนั้นสหรัฐอเมริกาที่แสนกว้างใหญ่หากมีสถานี Supercharger แค่ 742 สถานีอาจจะไม่สะดวก
ล่าสุดเว็บไซต์ของ EVGo เครือข่ายสถานีชาร์จแบบเร็วที่สามารถชาร์จแค่ 30 นาทีวิ่งได้ 145 กิโลเมตร ซึ่งมี 750 สถานีใน 34 รัฐของสหรัฐอเมริกา ได้รองรับขั้วต่อสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla แล้ว จึงช่วยให้ผู้ใช้ Tesla สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจะเริ่มมีที่สถานีในซานฟรานซิสโกเป็นที่แรก และจะขยายสู่สถานีอื่น ๆ ในปีหน้า อีกทั้งเป็นครั้งแรกที่สถานีชาร์จสาธารณะรองรับกับ Tesla
ล่าสุดเว็บไซต์ของ EVGo เครือข่ายสถานีชาร์จแบบเร็วที่สามารถชาร์จแค่ 30 นาทีวิ่งได้ 145 กิโลเมตร ซึ่งมี 750 สถานีใน 34 รัฐของสหรัฐอเมริกา ได้รองรับขั้วต่อสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla แล้ว จึงช่วยให้ผู้ใช้ Tesla สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจะเริ่มมีที่สถานีในซานฟรานซิสโกเป็นที่แรก และจะขยายสู่สถานีอื่น ๆ ในปีหน้า อีกทั้งเป็นครั้งแรกที่สถานีชาร์จสาธารณะรองรับกับ Tesla
EVGo สถานีชาร์จแบบเร็วนั้นมีระบบชาร์จอยู่ 3 ระดับ ซึ่งระดับ 3 แบบเร็วจะมีอะแดปเตอร์ CHAdeMO ที่รองรับกับ Tesla Models S/X/3 ดังนั้นผู้ใช้ Tesla หากหาสถานี Supercharger ไม่ได้แถวนั้นก็สามารถเปิดแอป EVgo เพื่อค้นหาสถานีชาร์จแบบเร็วของ EVGo เป็นอีกหนึ่งทางเลือกได้เช่นกัน